18.00 น.       พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน EMIRATES (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร

21.25 น.      นำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดย สายการบิน EMIRATES (EK)  เที่ยวบินที่ EK373

00.50 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

03.45 น.     นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เที่ยวบินที่ EK043

08.50 น.     เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต  ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศ เดินทางสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) (ระยะทาง 14 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีความเจริญและทันสมัยสมกับเป็นศูนย์กลางของทั้งการบินและเศรษฐกิจ นำท่านเดินชมจุดต่างๆ เริ่มที่ จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) เป็นจัตุรัสที่คงความงามของสถาปัตยกรรมยุคศตวรรษที่ 14-15 มีน้ำพุสวยงามอยู่ตรงกลางของจัตุรัส เป็นที่รู้จักในนามน้ำพุแห่งความยุติธรรม มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) หนึ่งในสัญลักษณ์ความสามัคคี มีลักษณะทรงสูงใช้สีน้ำตาลแดง ความสูงถึงยอดประมาณ 95 เมตร  

เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่1) 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) (ระยะทาง 191 กม. / 2.45 ชม.) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับที่สี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเมืองเบอร์ลิน แฮมเบิร์ก และมิวนิค พาท่านเดินทางเพื่อเก็บภาพสถานที่ต่างๆ เริ่มต้นที่ มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) มหาวิหารแห่งพลังศรัทธาด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ความสูง 157 เมตร ที่ตั้งตระหง่านเป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองโคโลญคู่กับสะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) เป็นสะพานประจำเมืองโคโลญคู่กับมหาวิหารโคโลญและเป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ โดยบริเวณรั้วที่กั้นระหว่างทางเดินและทางรถไฟเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวนิยมมาคล้องกุญแจแห่งความรัก

เย็น       รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)

จากนั้นเดินทางสู่เมืองดัสเซลคอร์ฟ (Dusseldorf) (ระยะทาง 41 กม. / 45 นาที) ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำไรน์ทางตะวันตกของเยอรมนี

ที่พัก : NH Dusseldorf City หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Giethoorn)  (ระยะทาง 235 กม. / 3.30 ชม.) เนเธอร์แลนด์ หรือว่าประเทศฮอลแลนด์ อันเป็นประเทศที่รู้จักกันดีว่าเป็นประเทศที่มีพื้นที่ต่ำมากที่สุด และเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เพราะไฮไลท์หลักของเนเธอร์แลนด์ก็คือทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และธรรมชาติที่งดงามไม่แพ้ประเทศอื่นในยุโรปเลย

เที่ยง    รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่4) 

จากนั้นนำท่านนั่งเรือเที่ยวชมหมู่บ้าน (ใช้ระยะเวลาโดยประมาน 1 ชม.) (ค่าทัวร์รวมค่าล่องเรือ) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น เวนิสเนเธอร์แลนด์ (Venice of the Netherlands) ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่มีเส้นทางการเดินรถ เน้นการสัญจรด้วยเรือเป็นส่วนใหญ่  ล่องเรือชมวิวสวยๆ ภายในหมู่บ้านท่ามกลางอากาศดีๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse  Schans) (ระยะทาง 132 กม. / 2 ชม.)  แลนด์มาร์คที่มีกังหันลมนับร้อย ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึก และศูนย์ฝึกอบรม ให้ท่านเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในหมู่บ้าน นำท่านเก็บภาพความประทับใจกับ World of wild mills กังหันลมนับร้อยแห่งที่อยู่รอบๆ หมู่บ้าน และความสวยงามสไตล์วินเทจ ของบ้านเรือนแบบดั้งเดิมของฮอลแลนด์ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบพาโนรามา รับลมเย็นๆ ชมวิวแสนโรแมนติก มีทุ่งหญ้าสีเขียวสดตั้งริมแม่น้ำกว้างสุดสายตา

นำท่านเข้าชม โรงงานทำรองเท้าไม้  (Wooden shoe workshop) ในสมัยก่อนรองเท้าเป็นสิ่งที่หายาก แพง เป็นของสำหรับคนมีฐานะ ชาวนาผู้ห่างไกลความเจริญจึงต้องสร้างรองเท้าขึ้นมาเอง โดยทำมาจากไม้ที่พิเศษที่สามารถกันน้ำได้เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งที่น้ำท่วมถึง ท่านสามารถซื้อรองเท้าไม้สีสันสดใสเป็นของฝากได้

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 22 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของประเทศ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Amstel ซึ่งที่มาของชื่อเมืองนั้นมาจากการรวมชื่อของแม่น้ำเข้ากับคำว่า “Dam” ที่แปลว่าเขื่อนจนกลายมาเป็น Amsterdam

เย็น       รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่5)

ที่พัก : Van der Valk Hotel Schiphol A4 หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)

นำท่านเยี่ยมชม โรงงานเพชร Royal coaster diamond factory เป็นโรงงานที่เก่าแก่ที่สุด สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1852 เพชรที่มีชื่อเสียงของที่นี้คือ "Kokhinur" ถูกดัดแปลงเป็นสมบัติของอังกฤษ นั้นก็คือมงกุฎและปัจจุบันเก็บไว้ในหอคอยที่ลอนดอน จากนั้นนำท่านล่องเรือท่องเที่ยวรอบคลองในอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Canal Cruise) (ค่าทัวร์รวมค่าล่องเรือ) ให้ท่านสัมผัสกับความสวยงามแห่งสายน้ำของเมืองอัมสเตอร์ดัมอย่างใกล้ชิด โดยเรือจะล่องไปบนผืนน้ำ และลอดผ่านใต้สะพานที่สวยงามหลายแห่งที่ทอดยาวผ่านเส้นทางน้ำ

เที่ยง     รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่7) 

นำท่านเดินทางสู่เมืองบรูกส์ (Brugge) ประเทศเบลเยียม (ระยะทาง 266 กม. / 4 ชม.) ที่ได้รับสมญานามว่าเวนิสแห่งภาคเหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยลำคลองอันสวยงาม  จากนั้นพาทุกท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญของเมือง โบสถ์อาวร์เลดี้ (The Church of Our Lady)โบสถ์แห่งนี้เป็นอนุสาวรีย์แห่งความมั่งคั่ง และความทุ่มเท แสดงถึงความเป็นเมืองแห่งคาธอลิก ซึ่งมีประวัติศาสตร์และความเชื่อมาอย่างยาวนาน  ยังคงเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในเมืองและเป็นหอคอยอิฐ ที่สูงเป็นอันดับสามของโลก หอนาฬิกาบรูกส์ (Belfry of Bruges) หนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง หอระฆังแห่งนี้เดิมเป็นที่ตั้งของคลังสมบัติและหอจดหมายเหตุของเทศบาล และทำหน้าที่เป็นเสาสังเกตการณ์การจุดไฟและอันตรายอื่นๆ มหาวิหารแห่งพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ (Basilica of the Holy Blood) เป็น ที่เก็บรักษาพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์ของบุคคลสำคัญ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอุโบสถของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์สได้รับการเลื่อนขั้นเป็นมหาวิหารรองในปี พ.ศ. 2466

เย็น      รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่8)

ที่พัก: Velotel Brugge หรือระดับใกล้เคียงกัน

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) (ระยะทาง 50 กม. / 45 นาที) มีการวางผังเมืองที่รอบคอบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ ในระยะเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว นำท่านถ่ายรูปด้านนอก ปราสาทกราเวนสตีน (Gravensteen) ในอดีตทำหน้าที่เป็นที่พักอาศัยของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์สและที่นั่งของรัฐบาลในช่วงเวลานั้น และยังเป็นตัวอย่างที่สำคัญของสถาปัตยกรรมยุคกลางที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยม รอบล้อมด้วยกำแพงสูงและคูน้ำที่ได้การอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี  จากนั้นนำท่าน ถ่ายภาพกับ หอระฆังแห่งเกนต์ (Het Belfort van Gent) เป็นหอระฆังสูง 95 เมตร ใจกลางเมืองเกนต์ หอระฆังของ Ghent ร่วมกับ Cloth Hall และ Mammelokker เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี 2542 ชมมหาวิหารเซนต์บาโว (St. Bavo's Cathedral) เป็นที่นั่งของสังฆมณฑลเกนต์และตั้งชื่อตามนักบุญบาโวแห่งเกนต์ อีกทั้งมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 55 กม. / 1 ชม.) เมืองหลวงของประเทศและยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่างคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU) และสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO)

เที่ยง         รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่10)  เมนูพิเศษ!! หอยมัสเซล + วาฟเฟิล (Mussel in White wine + Waffle)   

นำท่านถ่ายภาพกับ อะโตเมียม (Atomium sculpture) ถือเป็นสถาปัตยกรรมล้ำสมัยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของอะตอมในเชิงวิทยาศาสตร์ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ จัดนิทรรศการงานเอ็กซ์โป รูปปั้นแมนิเกนพีส (Manneken Pis fountain) มีความสวยงามและมีความเก่าแก่มาก ตัวประติมากรรมหล่อด้วยทองเเดงเป็นรูปเด็กผู้ชายเปลือยกาย กำลังยืนฉี่ลงอ่าง

พระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลล์ (Royal Palace of Brussels) ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของระบบรัฐบาลที่มีการปกครองในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ เป็นสถานที่ที่กษัตริย์เบลเยี่ยมใช้เป็นที่ประทับทรงงาน   

นำทุกท่านเดินทางไปสู่ เมืองปารีส  (Paris) ประเทศฝรั่งเศส (ระยะทาง 312 กม. / 4.30 ชม.) เมืองหลวงประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ผู้คนเรียกว่า "เมืองแห่งความรัก" เพราะบรรยากาศที่โรแมนติกและยังเป็นเมืองแห่งศิลปะ

เย็น       รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่11)  

ที่พัก : Mercure Paris Velizy หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่12)  

นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณด้านนอก หอไอเฟล (Eiffel Tower) แลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส  และยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย ตัวอาคารก่อสร้างโดยโครงเหล็กทั้งหมด สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น 

นำท่านเยี่ยมชมด้านนอก พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและโบราณคดี หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดและโด่งดังที่สุดในโลก โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 9 ล้านคนต่อปี

เที่ยง      รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่13)

อิสระช้อปปิ้งกันที่ ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ จากทั่วโลก ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ในปัจจุบันมีสาขาแบ่งอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมแล้วทั้งหมด 61 แห่ง นำทุกท่านเปิดประสบการณ์ล่องเรือแม่น้ำแซน โดย บาโต มูช (Bateaux-Mouches) (ประมาณ 1 ชม.) มีการบรรยายเกี่ยวกับประวัติเมืองปารีสตลอดทั้งสายการเดินทางระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารน็อทร์-ดาม, หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เป็นต้น

Highlight !  อาหารขึ้นชื่อฝรั่งเศส หอยเอสคาโก้  ในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Escargots au beurre persillé หอยอบที่ปรุงด้วยกระเทียม เนย และสมุนไพร ถือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยชั้นดี

เย็น      รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่14)  เมนูพิเศษ!! หอยเอสคาโก้ (Escargot)   

ที่พัก : Mercure Paris Velizy หรือโรงแรมระดับใกล้เคียงกัน

เช้า       รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่15)

นำท่านเช็คอิน ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ที่มีอายุกว่า 200 ปีและถูกจัดอันดับประตูชัยที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีรูปแกะสลักที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ การปลุกใจ รวมทั้งสดุดีการเสียสละแก่วีรชนทหารกล้า  จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้งถนนที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังที่สุดในฝรั่งเศส ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) ย่านศูนย์การค้าระดับพรีเมียม แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทุกแบรนด์ ร้านอาหารที่มีความหรูหรา เป็นย่านการค้าที่มีค่าเช่าที่แพงที่สุดในโลก และยังถูกจัดอันดับให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเซรีส (Serris) (ระยะทาง 39 ก.ม. / 45 นาที) เป็นย่านชานเมืองของปารีส ตั้งอยู่นอกบริเวณของดิสนีย์แลนด์ปารีส มีศูนย์การค้าที่ใหญ่โต และสวนสาธารณะอันกว้างขวาง อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ เอาท์เล็ท ลาวัลเล่ (La Vallée Village Outlet) จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ อยู่หลาย 10 แบรนด์ VERSACE หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในไทย และยังมี GUCCI, LACOSTLE, ERIC BOMPARD หรือBACCARAT

อิสระอาหารเที่ยงและเย็นตามอัธยาศัยเพื่อเป็นการไม่รบกวนเวลาของท่าน

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ (ระยะทาง 38 ก.ม. / 45 นาที)

21.55 น.      เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน EMIRATES (EK)  เที่ยวบินที่ EK076

06.35 น.           เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

09.40 น.            เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK372

19.15 น.            เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ